เรื่องเล่าทั้งหมด

เรื่องราวเล่าขาน ตำนานตานี

หลวงพ่อทุ่งคา  
ข้อมูลทั่วไป
รหัสเรื่องเล่า88
เรื่องหลวงพ่อทุ่งคา
หมวดหมู่ปรัชญา ศาสนา ศรัทธา และความเชื่อ
เป็นเรื่องเล่าของอำเภอยะหริ่ง
เป็นเรื่องเล่าของตำบลปิยามุมัง
ผู้บันทึกเรื่องเล่าอัญญ์ณิชตา รุ่งวิชานิวัฒน์ (annitta.r)
วันที่บันทึกข้อมูล25/03/2020

ข้อมูลจำเพาะประจำเรื่องเล่า
พิธีกรรมและของที่ใช้ประกอบพิธีกรรม

-

เทศกาลที่เกี่ยวข้อง

-


ข้อมูลเรื่องเล่า
รายละเอียดเรื่องเล่า

นายสุริย์ คงคากุล เล่าว่า หลวงพ่อทุ่งคาเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 55 ซม. สูง 71 ซม. เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงตั้งข้อสังเกตว่าในสมัยนั้นนิยมสร้างพระพุทธธูปเกศามาลาเป็นต่อมสั้น พระกรรณยาว ขมวดเกศาเล็กละเอียดและมีอุณาโลมหรือใบโพธิ์ติดอยู่ด้านหน้าเกศามาลา พระหัตถ์ และพระบาทได้ส่วนกับพระวรกาย ฐานล่างทำง่ายๆ ไม่มีชั้นเป็นกลีบบัว เสด็จในกรมทรงสันนิษฐานว่าเป็นศิลปะอินเดียผสมเชียงแสนและน่าจะสร้างในศตวรรษที่ 17 ประมาณ พ.ศ. 1745 นัยว่ามี 2 องค์ที่วัดบูรพารามเป็นองค์ใหญ่และที่อำเภอปะนาเระเป็นองค์เล็ก ซึ่งพุทธลักษณะทั้ง 2 องค์เหมือนเป็นลักษณะสองพี่น้องแต่องค์น้องได้ถูกโจรกรรมไปแล้วตามตำนานมีผู้เล่าให้ฟังต่อ ๆ กันมาว่าพระพุทธรูปนี้มี 2 องค์ ด้วยกันมีองค์ใหญ่และองค์เล็กทั้งสององค์ขี่ฆ้องลอยมาในคลองยะหริ่ง องค์พี่ลอยมาใกล้วัดทุ่งคาชาวบ้านเห็นจึงอัญเชิญมาไว้ที่วัดทุ่งคา องค์น้องขี่ฆ้องลอยไปที่อำเภอปะนาเระก็ได้อัญเชิญไปที่วัดท่านาว อีกนัยหนึ่งว่าพระพุทธธูปองค์ใหญ่จมอยู่ในคลองใต้ต้นตะเคียนใหญ่มีคนไปทอดแหบริเวณนั้น พระพุทธธูปติดแห ชาวบ้านลงไปปลดและช่วยกันนำไปไว้ใต้ต้นตะเคียนใหญ่พระสงฆ์และชาวบ้านวัดทุ่งคาจึงอัญเชิญไปไว้ที่วัดทุ่งคาจึงเรียกชื่อว่า “หลวงพ่อทุ่งคา” ประดิษฐานที่วัดทุ่งคา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2297 หลังจากที่ประชาชนชาวไทยพุทธ ที่ชนะศึกสงครามการปราบกบฏ 4 หัวเมืองมลายู ประกอบด้วย เมืองกลันตัน เมืองตรังกานู เมืองสายบุรีและเมืองปัตตานี เมื่อ พ.ศ. 2329 แล้วนั้น ชาวไทยพุทธที่มีชัยชนะสงครามปราบกบฏพร้อมด้วยชาวไทยเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาพุทธลงความเห็นกันว่าจะสร้างวัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง) สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2330 และได้นิมนต์เจ้าอาวาสวัดทุ่งคา (ซึ่งขณะนั้นเหลือเจ้าอาวาสอยู่เพียงองค์เดียวเสนาสนะก็กำลังทรุดโทรม) มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกพร้อมทั้งได้อัญเชิญหลวงพ่อทุ่งคามาไว้ในโบสถ์วัดกลางเพื่อเป็นประธานในการดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาด้วย หลวงพ่อทุ่งคาประดิษฐานอยู่ที่วัดทุ่งคาประมาณ 33 ปี ครั้นสิ้นสมัยของเจ้าเมืองยะหริ่งที่เป็นไทยพุทธ 2 คน คือพระยาพิพิธเสนามาตยาธิบดีสรีสงคราม (ไภ่) และพระยาพิพิธเสนามาตยาธิบดีศรีสงคราม (ยิ้มซ้าย) พ.ศ. 2357-2391 วัดกลางก็ค่อยๆ เสื่อมลงและอีก 20 ปีต่อมาคือ พ.ศ. 2411 วัดกลางก็ร้างลงหลวงพ่อทุ่งคาจึงถูกอัญเชิญมาไว้ที่วัดบูรพารามจนถึงปัจจุบันรวมเวลา 818 ปี

สถานที่เกิดเรื่องเล่า-
ช่วงเวลาที่เกิดเรื่องเล่าพ.ศ. 1745
สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
  • สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
  • สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
  • สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
  • สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
  • สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
  • สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทภาพถ่าย
สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภท Info Graphicsสื่อประกอบเรื่องเล่าประเภท Info Graphics
สื่อประกอบเรื่องเล่าประเภทคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงyoutube.com
คำสำคัญหลวงพ่อทุ่งคา,วัดบูรพาราม,พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ยะหริ่ง
คุณค่า/การต่อยอด

สามารถต่อยอดทางด้านการเรียนการสอน เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และศาสนา เป็นที่จรรโลงใจสำหรับคนที่ศรัทธาในหลวงพ่อทุ่งคา


ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
ชื่อสถานที่วัดบูรพาราม
ที่ตั้งวัดบูรพาราม ตำบลปิยามุมัง
ยะหริ่ง, ปัตตานี 94150
Map It
ช่วงเวลาทำการ

เปิดทุกวัน

ข้อมูลการติดต่อ

สอบถามข้อมูลโทร 084-9653621

เงื่อนไขและข้อกำหนด

-


ข้อมูลแหล่งที่มา
ชื่อ-สกุล ผู้ให้สัมภาษณ์สุริย์ คงคากุล
ที่อยู่และข้อมูลการติดต่อ

ตำบลปิยามุมัง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี 94150

สถานภาพหรือความสำคัญที่ได้มาเป็นคนเล่าเรื่อง

ผู้ศึกษาค้นคว้าและเขียนหนังสือเกี่ยวกับหลวงพ่อทุ่งคา
อดีตข้าราชการครูโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดปัตตานี

วันที่สัมภาษณ์01/02/2020