เรื่องเล่าทั้งหมด

แหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา สมัยโต๊ะครูฮัจยีสุหลง  
ข้อมูลทั่วไป
รหัสเรื่องเล่า70
เรื่องแหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา สมัยโต๊ะครูฮัจยีสุหลง
หมวดหมู่แหล่งเรียนรู้ปัตตานีศึกษา
เป็นเรื่องเล่าของอำเภอเมืองปัตตานี
เป็นเรื่องเล่าของตำบลอาเนาะรู
ผู้บันทึกเรื่องเล่ากมลทิพย์ หลงหา (kamonthip.i)
วันที่บันทึกข้อมูล21/02/2020

ข้อมูลจำเพาะประจำเรื่องเล่า

ข้อมูลเรื่องเล่า
รายละเอียดเรื่องเล่า

แหล่งเรียนรู้สมัยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ก็คงหนีไม่พ้นแหล่งเรียนรู้ทางด้านศาสนา ในสมัยอดีตแหล่งเรียนรู้มันน้อย แหล่งเรียนรู้ของคนมุสลิมส่วนใหญ่ก็เป็นปอเนาะแบบเล็กๆ ไม่มีหลักสูตรแน่นอน นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ เล่าว่า สมัยเมื่อ ปี พ.ศ. 2496 นายอรรถพร มีโอกาสได้เรียนอัลกุรอาน จะเรียนที่บ้านของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง อับดุลกอดอร์ โต๊ะมีนา นามสกุลเดิมของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง คือ "ต่วนมีนาลย์" ท่านเป็นโต๊ะอิหม่ามที่มีชื่อเสียงในอดีต ท่านเปิดบ้านสอนความรู้เกี่ยวกับศาสนาทุกอย่าง ท่ามีความรู้ทางศาสนามากเพราะบิดาท่านได้ส่งไปเรียนศาสนาที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จนแตกฉานทั้งในเรื่องศาสนา ปรัชญา และภาษาทางมุสลิม โต๊ะครู ตั้งใจจะกลับมาเผยแพร่ศาสนาที่มณฑลปัตตานี อันเป็นบ้านเกิด ได้เดินทางกลับมาเมื่อปี พ.ศ. 2470 จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศาสนา หรือปอเนาะ ขึ้นมาเป็นแห่งแรก ที่บ้านของตนเอง สมัยนั้นปอเนาะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล มีคนเรียนมลายูน้อยมาก ปอเนาะก็มีน้อย
จนเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่โต๊ะครูฮัจยีสุหลง เสนอ 7 ข้อเรียกร้องเสนอต่อรัฐบาล พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ปี 2490
1.ขอให้แต่งตั้งบุคคลคนหนึ่งซึ่งมีอำนาจเต็มมาปกครองใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล
2.ข้าราชการใน 4 จังหวัด ต้องเป็นมุสลิมจำนวน 80 %
3.ให้ใช้ภาษามลายูและภาษาไทยเป็นภาษาราชการของ 4 จังหวัด
4.ให้ภาษามลายูเป็นภาษากลางของการสอนในโรงเรียนชั้นประถมศึกษา
5.ให้ใช้กฎหมายมุสลิมในศาลศาสนา แยกออกไปจากศาลจังหวัด
6.ภาษีเงินได้และภาษีทั้งปวงที่เก็บจากประชาชนใน 4 จังหวัดต้องใช้จ่ายเฉพาะใน 4 จังหวัดเท่านั้น
7.ให้จัดตั้งคณะกรรมการมุสลิมมีอำนาจเต็มในการดำเนินการเกี่ยวกับคนมุสลิมทุกเรื่อง โดยให้อยู่ในอำนาจสูงสุดของผู้นำตามข้อ 1
ต่อมาได้เกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อปลายปีเดียวกัน ได้มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลมาเป็นขั้วของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างจากขั้วอำนาจเดิม ข้อเรียกร้องทั้ง 7 ข้อ ของโต๊ะครูฮัจยีสุหลงถูกเพ่งเล็งว่าเป็นกบฏกระด้างกระเดื่องต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร จนในที่สุดถูกจำคุกในข้อหาปลุกระดมและก่อการกบฏเพื่อแบ่งแยกดินแดน ซึ่งฮัจยีสุหลงถูกจัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี 8 เดือน หลังจากที่ออกจากคุก โต๊ะครูฮัจยีสุหลง ก็กลับมาปัตตานี และทำการสอนอัลกุรอานอย่างต่อเนื่อง นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ ยังเล่าอีกว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์รุ่นสุดท้าย ประมาณปี พ.ศ. 2496 เรียนได้กับโต๊ะครูได้ไม่นาน เมื่อปี พ.ศ. 2497 วันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันศุกร์ โต๊ะครูได้หายตัวไป จนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้น นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ ก็ได้เรียนอัลกุรอานกับลูกๆของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง ในเวลาต่อมา

สถานที่เกิดเรื่องเล่าบ้านโต๊ะครูฮัจยีสุหลง ตำบลอาเนาะรู
ช่วงเวลาที่เกิดเรื่องเล่าปี พ.ศ. 2490 - 2497
คำสำคัญนครเมกกะ,โต๊ะอิหม่าม,ปอเนาะ
คุณค่า/การต่อยอด

ก่อตั้งโรงเรียนสอนศาสนา หรือปอเนาะ ขึ้นมาเป็นแห่งแรกในมณฑลปัตตานี

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • ปอเนาะนูรุลอิสลาม ปอเนาะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
ชื่อสถานที่ปอเนาะฮัจยีสุหลง
ที่ตั้งตำบลอาเนาะรู
อำเภอเมืองปัตตานี, ปัตตานี 94000
Map It
ช่วงเวลาทำการ

-

ข้อมูลการติดต่อ

-


ข้อมูลแหล่งที่มา
ชื่อ-สกุล ผู้ให้สัมภาษณ์นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์
ที่อยู่และข้อมูลการติดต่อ

13/1 ถ.มายอ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี

สถานภาพหรือความสำคัญที่ได้มาเป็นคนเล่าเรื่อง

นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ เรียนอัลกุรอาน รุ่นสุดท้ายของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง ปัจจุบันนายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ ได้รับรางวัล "คนดี ศรีตานี" ด้านสังคม ประจำปี พ.ศ.2562

วันที่สัมภาษณ์23/12/2019