เรือนไทยมุสลิมริมแม่น้ำปัตตานี อายุกว่าร้อยปีในจังหวัดปัตตานี ที่มีศิลปะการตกแต่งตัวเรือนด้วยลายไม้แกะสลักที่สวยงาม
เรือนไทยมุสลิมในจังหวัดปัตตานี ที่มีศิลปะการตกแต่งตัวเรือนด้วยลายไม้แกะสลักที่สวยงาม
เรือนไทยมุสลิมในจังหวัดปัตตานี ที่มีศิลปะการตกแต่งตัวเรือนด้วยลายไม้แกะสลักที่สวยงาม
บานประตูไม้ในมัสยิดรายอฟาฏอนีที่มีลายแกะสลักเป็นลายแบบมลายู-ชวา
ปันจักสีลัต หรือสีละ ถือเป็นศิลปะการต่อสู้ของคนเชื้อสายมาลายู ที่ต่อสู้ด้วยมือเปล่า เท้าเปล่า เน้นให้เห็นลีลาการเคลื่อนไหวและการร่ายรำการต่อสู้ที่สวยงาม
โรงงานกลุ่มผลิตข้าวเกรียบบ้านปาตาบาระเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2548 มีเงินตั้งต้นที่เหลือจากโครงการพัฒนาหมู่บ้านจำนวน 30,000 บาท มาสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยการรวมกลุ่มกันทำข้าวเกรียบลองผิดลองถูกมาเวลา 2 ปี เพราะไม่มีสูตรจึงขาดทุนมาตลอดแต่ก็พยายามบริหารจัดการใหม่จนมีทุกวันนี้นับระยะเวลาในการก่อตั้งโรงงานข้าวเกรียบถึงปัจจุบันรวม 15 ปี
จุดเริ่มต้นในการทำละซอ ละแซ ของนางแวแย เจะโซ๊ะ มาจากการสังเกตบรรพบุรุษจึงเรียนรู้การทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ปัจจุบันได้สานต่อละซอ ละแซ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของทางบ้านมากว่า 80 ปี จนเป็นที่รู้จักว่าเป็นละซอ ละแซในตำนาน
กล้วยเส้นทรายขาว เป็นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนาสินค้าโดยการนำทรัพยากรในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ โดยใช้วัตถุดิบในพื้นที่
“คัมภีร์อัล-กุรอ่าน”เป็นคัมภีร์อัล-กุรอ่านอายุกว่า 900 ปี ที่เขียนด้วยลายมือของแซฮ.อับดุลรอนี (ผู้ทรงความรู้ทางด้าน คัมภีร์อัล-กุรอ่าน) เป็นคนตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นคนที่สามารถจำอัล-กุรอ่าน และเขียนได้หมดทั้ง 30 ยุฮ
เมืองสายบุรีเดิม ตั้งอยู่ที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส การตั้งเมืองสมัยก่อน จะตั้งริมแม่น้ำพอแม่น้ำตื้นเขินการคมนาคมไม่สะดวก เจ้าเมืองสายบุรีคนที่ 3 ก็ย้ายเมืองมาอยู่ที่อำเภอไม้แก่น ตัววังตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำกอตอฝั่งซ้าย ช่วงหลังแม่น้ำเกิดตื้นเขิน เจ้าเมืองสายบุรีก็ย้ายมาตั้งเมืองอยู่ที่ซาลิงดงบารู ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรีปัจจุบัน

