ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยพุทธ จีน มุสลิมในชุมชนกืดาจีนอ

ปัตตานีกับวิถีชีวิตสังคมพหุวัฒนธรรม
อาเนาะรู
เมือง

คุณสุพิศ ดาราพันธ์ ได้เล่าว่า ชุมชนจีนหรือชุมชนกือดาจีนอว่า เป็นชุมชนที่มีทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยมุสลิม มีการอยู่ร่วมกันในชุมชนแห่งนี้อย่างพี่อย่างน้อง โดยชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมจะอาศัยอยู่ที่ชุมชนคลองช้างและชุมชนอาเนาะรูซึ่งจะอยู่ขนาบข้างของชุมชนจีน ทุกคนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นเพื่อนกันรู้จักกันแทบทุกหลัง ในสมัยนั้นจะไม่มีขโมย บ้านเรือนในสมัยนั้นสามารถเข้าออกได้ 24 ชั่วโมง

อีกทั้งในสมัยนั้นจะมีเด็กๆ มาวิ่งเล่นกันทั้งชาวไทยพุทธ จีน และมุสลิมทั้งชายและหญิง นอกจากนี้เวลามีเทศกาล กิจกรรมหรือมีการจัดงาน ทุกคนจะต่างไปช่วยเหลือซึ่งกันและกันแม้จะต่างศาสนา ในสมัยนั้นผู้คนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธ ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยมุสลิมจะมีการแต่งกายที่มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งในสมัยนั้นชุมชนแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางการค้า จะมีการค้าขายร่วมกันภายในชุมชน โดยชาวไทยเชื้อสายจีน จะนำสินค้าประเภทจาน ชามมาขาย ส่วนชาวไทยมุสลิมจะนำสินค้าประเภทพืชผัก ผลไม้ มาค้าขายร่วมกันในตลาด

คุณสุพิศ ได้เล่าอีกว่าสมัยก่อนตอนที่เกิดสงครามญี่ปุ่นขึ้น มีคนจีนได้อพยพหนีไปอยู่บ้านของคนมุสลิม ผู้คนในสมัยนั้นมีน้ำใจกัน ไม่ระแวงต่อกันแม้ต่างศาสนา และคนจีนในสมัยนั้นก็สามารถพูดภาษามาลายูได้ ฟังเข้าใจ ถึงแม้ว่าต่างฝ่ายต่างพูดภาษาของตนเอง แต่ก็สื่อสารกันเข้าใจ สามารถสื่อสารกันได้เวลาซื้อขายกัน มีการอุดหนุนสินค้าซึ่งกันและกัน คุณสุพิศได้กล่าวว่า อาหารหรือขนมโบราณของคนมุสลิมในสมัยนั้นมีรสชาติที่อร่อยมาก เช่น ขนมน้ำดอกไม้ ขนมตาแปมันไม้ เป็นต้น ส่วนคนมุสลิมก็อุดหนุนขนมของชาวไทยเชื้อสายจีนด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ขนมม่อฉี่ ขนมเต่า โดยคนมุสลิมจะเลือกซื้ออาหารหรือขนมที่ไม่มีส่วนผสมของหมู ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นจะมีความเข้าอกเข้าใจกัน เวลาทำอาหารก็จะแยกบรรจุภัณฑ์เฉพาะคนมุสลิม นอกจากนี้ชุมชนจีนในสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า เสาไฟฟ้ามีอยู่บ้างแต่ระยะห่างไกลๆ กันในแต่ละเสา แต่ละบ้านมีการใช้ตะเกียง ในสมัยก่อนจะนิยมสมรสกันทางสายเลือด แต่งงานกันในเครือญาติ และจะมีการแต่งงานข้ามศาสนา เช่น คนมุสลิมแต่งงานกับคนจีน ซึ่งการเข้ารับอิสลามนั้น จะอยู่ที่การตกลงกันของแต่ละคู่นั้นๆ คุณสุพิศยังได้กล่าวอีกว่า ในสมัยก่อนคนมุสลิมก็มีการเข้าไปในวัด แล้วเอาน้ำในบ่อของวัดมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น เอาไปซักผ้า อาบน้ำ เป็นต้น และมีชาวมุสลิมบางส่วน เวลาโดนของหรือไสยศาสตร์ ก็จะพามารักษากับอาจารย์เมือง ที่เป็นเจ้าอาวาสในวัดหัวตลาด หรือที่เรียกว่าวัดตานีนรสโมสรในปัจจุบัน

เรียบเรียงโดย นูรียะห์ ดาแซ