ข้าวยำ เป็นอาหารหลักในท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมปัตตานีนิยมรับประทานในมื้อเช้า และมื้อเย็น เป็นอาหารที่ทำรับประทานง่ายหรือหาซื้อง่ายมีขายเกือบทุกชุมชน เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ปรุงมีอยู่ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นผักสดจากริมรั้ว ปลาที่หาได้ในท้องทะเลรอบอ่าวปัตตานี พร้อมกับภูมิปัญญาในการถนอมอาหารแปรรูปจากปลาสด กลายเป็นบูดูที่มีรสชาติ อร่อย กลมกล่อม
อาหารพื้นถิ่น
ผักกูด หรือในชุมชนมุสลิมเรียกว่า “ปูโจ๊ะปากู” เป็นผักยอดนิยมของคนในท้องถิ่นปัตตานี ยำ ด้วยผักกูดมีสีเขียวสด ใบประกอบแบบขน ยอดหงิกม้วนงอสวยงามมีชั้นเชิงทางศิลปะ ทำให้ชนชั้นสูงหรือผู้มีฐานะนำผักท้องถิ่นอย่างผักกูดมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารเลี้ยงในงานต้อนรับบุคคลสำคัญ หรือรับประทานภายในครอบครัวในโอกาสวันสำคัญต่างๆ
นาซิดาแฆ นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า เป็นอาหารยอดนิยมของคนในสามจังหวัดชายแดนใต้ นาซิดาแฆ จะประกอบด้วยส่วนเป็นข้าว แกงกะทิปลาโอ และซามา
“กาบูยาตง” “กาบู” หมายถึง ยำ “ยาตง” หมายถึง หัวปลี ด้วยรสชาติหัวปลีมีความฝาด จึงนำมายำกับกะทิผสมน้ำตาลทราย เกลือ ทำให้ได้รสชาติที่ อร่อยเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เป็นอาหารที่นิยมทำรับประทานเองที่บ้าน รับประทานกับข้าวสวย ทั้ง 3 มื้อ หรือบางครั้งสามารถหารับประทานได้ในงานมลคลต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ งานเมาลิด เป็นต้น
ปือโฆะลือมูซูมะ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ไส้กรอกวัว คำว่า “ปือโฆะลือมู” หมายถึง ไส้วัว คำว่า “ซูมะ” หมายถึง ยัดใส่ ปือโฆะลือมูซูมะ นับว่าเป็นอาหารที่เกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่รู้จักนำวัตถุมาแปรรูปให้มีคุณค่า ว่ากันว่าสมัยก่อนในช่วงระยะเวลาวันอีดิลอัฏฮาของทุก ๆ ปีจะมีการปฏิบัติกิจกรรมที่สำคัญยิ่ง คือ การเชือดสัตว์เพื่อทำ “กรุบาน” สัตว์ที่ใช้ทำกรุบาน คือ อูฐ วัว ควาย แพะ แกะ กีบัช ซึ่งส่วนใหญ่ชาวไทยมุสลิมปัตตานีนิยมใช้ วัว ทำกรุบาน เนื้อสัตว์ที่ทำการกรุบานนั้น จะแจกจ่ายแก่คนยากจน ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านใกล้เคียง ส่วนเศษที่เหลือดังเช่น ไส้วัว ชาวบ้านในท้องถิ่นนำมาทำเป็นปือโฆะลือมูซูมะ
กอเละลอเมาะ นิยมรับประทานเป็นตอนเที่ยง หรือตอนเย็นๆ หรือรับประทานเดือนบวช ช่วงฝนตก อากาศเย็น กินได้ทุกวัย
ปอลี หรือ กาโต หรือ ขนมคนที นิยมรับประทานเดือนบวช อากาศเย็น กินได้ทุกวัย วัยผู้ใหญ่ 40 ปีขึ้น กินอยู่บ้าน ส่วนใหญ่ในเดือนบวชขายดี เพราะความมันของมะพร้าว และความหวานของนำตาลโตนด รสชาติกลมกล่อม
ขนมเจ๊ะแม๊ะ เป็นขนมพื้นบ้านที่ทำกินต่อ ๆ กันมานาน มักจะทำกินกันในฤดูที่ปลูกมันเทศมาก สามารถกินเป็นขนมหวาน หรือของว่างในมื้อกลางวันและบ่าย มักจะนิยมกินในฤดูฝน ใช้เสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น
ขนมยือปุ เป็นขนมที่ทำจากกล้วยสุก ชาวไทยมุสลิมนิยมนำกล้วยสุกมาทำเป็นขนมยือปุไว้กินในครอบครัว และแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน เพราะเป็นขนมที่ทำง่าย รสชาติอร่อย นิยมรับประทานตอนเช้าคู่กับเครื่องดื่มชา หรือกาแฟร้อน
ซามาซารี เป็นขนมหวานที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งชาวบ้านในท้องถิ่น ทำกินในเทศกาล เดือนรอมฎอน (เดือนถือศีลอด) รับประทานตอนค่ำของการแก้บวช ด้วยรสชาติหวานมัน ชื่นใจ กินแล้วช่วยคลายความอ่อนเพลียจากการถือศีลอด

