ผีหลังกลวงเกิดขึ้นที่พื้นที่ทรายขาว ผีหลังกลวงอาศัยอยู่ที่เนินหมู่บ้าน และอาศัยอยู่ในถ้ำ เชื่อกันว่าผีหลังกลวงมีทรัพย์สินเงินทองอยู่มากมาย เป็นผีที่เชื่อมั่นในสัจจะ ถ้าใครพูดอะไรไปแล้วเขาก็จะเชื่อตามนั้น
คุณจุฬา บิลอับดุลล่าห์ เล่าว่า คุณพ่อเป็นคนทรายขาวโดยกำเนิดและได้แต่งงานแล้วไปอยู่ที่ภูเก็ตซึ่งพ่อเป็นคนชอบสอนลูกด้วยการเล่านิทานให้ลูกฟัง หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องผีหลังกลวง โดยเรื่องราวอาจถูกผสมกลมกลืนกับพื้นที่ที่จังหวัดภูเก็ตให้มากขึ้น เพราะพ่อมีลูกเยอะก็เลยต้องมีกุศโลบายในการเล่าเรื่องต่างๆ ให้ลูกฟัง คุณจุฬา บิลอับดุลล่าห์ เริ่มเล่าว่า หลังบ้านจะมีต้นมะม่วงหิมพานต์ยู่ติดกับคลอง ซึ่งไหลออกสู่ทะเลหลังบ้าน ซึ่งตอนเด็กๆ ก็จะชวนเพื่อนมาที่บ้านแล้วลงไปเล่นในคลอง จับหอยจับปู ค่ำๆ ก็จะกลับบ้าน คุณพ่อคิดว่าลูกกลับบ้านดึกๆ แบบนี้ไม่ได้แล้ว เลยเล่าเรื่องผีหลังกลวงให้ลูกฟังว่า “ลูกต้องระวัง เพราะหลังบ้านเราไม่ใช่มีเฉพาะแค่คนอยู่นะ สิ่งอย่างอื่นที่ไม่ใช่คนก็อยู่ด้วย ถ้าเราเดินไปในคลองยิ่งดึก เป็นไปได้ที่จะเจอผีหน้าตาเหมือนคนเลย และไม่สามารถแยกออกเลยว่าเป็นผีหรือคน แล้วผีเหล่านี้ก็จะลวงคนที่ไม่ดี คนที่ทำชั่ว คนที่ผิดสัญญา คนเหล่านี้ผีหลังกลวงจะไม่ชอบ ผีพวกนี้เขาจะหากินเหมือนคนนี่แหล่ะ ชอบล่องในคลอง ลงไปในทะเล ไปจับหอยจับปู แต่เขาจะเป็นผีที่มีมารยาทคือ พอกินจะไม่ทิ้งเปลือกหอยเปลือกปูเพ่นพ่าน กินปุ๊บก็จะเอาเปลือกหอยเปลือกปูใส่ข้างหลัง ก็จะได้ยินเสียง ก็อกๆ..” พ่อเล่าว่า “คนที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ชอบหา ปู หาหอยตอนกลางคืน มันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะเวลาหาหอยเด็กๆมักจะสนุก พอหาได้ก็จะเก็บไปในข้องข้างหลัง ซึ่งเสียงที่เราเก็บหอยนั้นมันก็เป็นเสียงเดียวกันกับตอนผีหลังกลวงทิ้งเปลือกหอยไปไว้ข้างหลัง ทำให้แยกไม่ออกว่าเสียงไหนคือเสียงคน เสียงไหนคือเสียงของผีหลังกลวง และเพลิดเพลินกับการหาจนลืมไปว่าเราเดินลึกไปถึงไหนแล้ว ทำให้เราสามารถพลัดหลงกับคนที่ไปด้วยกันได้ พอรู้ตัวอีกทีก็เงยหน้ามองหาเพื่อนที่มาด้วยกันข้างๆ แต่กลับไม่พบใคร ก็เลยตะโกนเรียกชื่อเพื่อน “บัดอยู่ไหน” ก็จะมีเสียงสะท้อนกลับมาว่า “ไหน..ไหน..ไหน” “เราอยู่นี่” เสียงสะท้อนกลับมา “นี่…นี่…นี่” ก็เลยเดินเข้าไปหาเพื่อนที่อยู่ข้างหน้า พอเดินไปเรื่อยๆน้ำก็เริ่มสูงขึ้นถึงเอว ซึ่งถ้าน้ำสูงขนาดนั้นก็ไม่สามารถหาหอยได้แล้ว แต่เรายังมั่นใจว่าเพื่อนเขาอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็เลยเดินตามเพื่อนไปเรื่อยๆ จนไปถึงน้ำลึกละไม่สามารถพยุงตัวเองได้ ทำให้จมน้ำไปในที่สุด
ต่อมาพ่อก็เล่าเรื่องผีหลังกลวงอีกว่า จริงๆ ผีหลังกลวงเกิดขึ้นที่พื้นที่ทรายขาว ก็คือผีหลังกลวงมาอยู่กับชาวบ้านนี้ทรายขาวนี่แหละ แต่ชาวบ้านไม่รู้ แยกไม่ออก เพราะรูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนคนเลย ซึ่งเขาจะเอาผ้ามาคลุมหลังเขาไว้เพื่อไม่ให้เห็นหลังที่กลวงของเขา ผีหลังกลวงจะอาศัยอยู่ที่เนินหมู่บ้าน และอาศัยอยู่ในถ้ำ เชื่อกันว่าผีหลังกลวงมีทรัพย์สินเงินทองอยู่มากมาย ประกอบกับผีหลังกลวงมีนิสัยใจดี เอื้อเฟื่อ เป็นผีที่เชื่อมั่นในสัจจะ ถ้าใครพูดอะไรไปแล้วเขาก็จะเชื่อตามนั้น ซึ่งผีหลังกลวงก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ทรายขาวตามปกติ จนมีวันหนึ่งชาวบ้านได้เข้ามาขายของให้แก่ผีหลังกลวงแล้วรับปากจะนำสิ่งของมาให้ทีหลัง ผีหลังกลวงเชื่อมั่นในสัจจะ ไว้ใจก็เลยจ่ายเงินไปก่อน แต่ชาวบ้านนั้นผิดสัญญาไม่ได้ทำตามที่ตัวเองพูด ผีหลังกลวงก็เลยฆ่าชาวบ้านทิ้งเสีย ทำให้ชาวบ้านกลัวผีหลังกลวงและรวมกลุ่มกันขับไล่ผีหลังกลวงให้ออกไปจากหมู่บ้าน แล้วถ้ำถูกปิดมาจนถึงทุกวันนี้
นี่ก็เป็นเรื่องราวที่คุณพ่อซึ่งเป็นคนทรายขาว (เป็นแหล่งที่เกิดเรื่องราว) แต่ย้ายมาอยู่ภูเก็ต จึงเล่าโดยประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของภูเก็ตที่มีทะเล อย่างไรก็ตามคำสอนจากเรื่องเล่านั้นเหมือนเดิมคือ ต้องซื่อสัตย์และทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้