ลายแกะสลัก บานประตูในมัสยิดรายอฟาฏอนี

สถาปัตยกรรม
จะบังติกอ
เมืองปัตตานี

บานประตูไม้ในมัสยิดรายอฟาฏอนีที่มีลายแกะสลักเป็นลายแบบมลายู-ชวา

มัสยิดแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อช่วงประมาณ พ.ศ. 2388-2399 โดยเจ้าเมืองปัตตานี คือ สุลต่านมูฮัมหมัด หรือ ตนกูบือซาร์ หรือ ตนกูปะสา เดิมเป็นสุเหร่าอาคารไม้ สร้างในรั้ววัง ต่อมาได้ย้ายมาสร้างเป็นอาคารถาวร ณ ที่ปัจจุบัน และได้ขยายอาคารส่วนที่เป็นอิฐเพิ่มเติม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “มัสยิดรายอฟาฏอนี” ตามคำเรียกชื่อเมืองปัตตานี มัสยิดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่สถาปัตยกรรมมลายูปาตานี ซึ่งผสมระหว่างอาคารทรงพื้นเมืองหลังคา 2 ชั้น ทรงปั้นหยา และยอดโดมแบบสถาปัตยกรรมตะวันออกที่อยู่ด้านหลังของอาคาร
เมื่อเดินเข้าไปในอาคารด้านหน้า จะผ่านบานประตูไม้ที่มีลายแกะสลัก ซึ่งเป็นลายแบบมลายู-ชวา แกะสลักโดย นายนิมะ เป็นช่างจากบ้านตาแกะ จัดทำเป็นบานประตูไม้ขนาดใหญ่เพื่อกั้นพื้นที่ใช้สอยภายนอกและภายในมัสยิด ประตูแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนล่างสุดเป็นบานประตูไม้ มีธรณีประตูอยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นมัสยิดเดียวที่มีธรณีประตู ส่วนที่ 2 ตรงกลางของประตู เป็นลายไม้สลักลายแบบมลายู-ชวา ส่วนที่ 3 ด้านบนสุด เป็นลายไม้แบบจีน เนื่องจากช่างผู้ควบคุมการติดตั้งในมัสยิดเป็นคนจีน จึงมีการผสมผสานลายแบบพหุวัฒนธรรม

เรียบเรียงโดย ประทุมรัตน์ รัตน์น้อย