แหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา สมัยโต๊ะครูฮัจยีสุหลง

แหล่งเรียนรู้ปัตตานีศึกษา
อาเนาะรู
เมือง

แหล่งเรียนรู้สมัยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ก็คงหนีไม่พ้นแหล่งเรียนรู้ทางด้านศาสนา ในสมัยอดีตแหล่งเรียนรู้มันน้อย แหล่งเรียนรู้ของคนมุสลิมส่วนใหญ่ก็เป็นปอเนาะแบบเล็กๆ ไม่มีหลักสูตรแน่นอน นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ เล่าว่า สมัยเมื่อ ปี พ.ศ. 2496 นายอรรถพร มีโอกาสได้เรียนอัลกุรอาน จะเรียนที่บ้านของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง อับดุลกอดอร์ โต๊ะมีนา นามสกุลเดิมของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง คือ ต่วนมีนาลย์ท่านเป็นโต๊ะอิหม่ามที่มีชื่อเสียงในอดีต ท่านเปิดบ้านสอนความรู้เกี่ยวกับศาสนาทุกอย่าง ท่ามีความรู้ทางศาสนามากเพราะบิดาท่านได้ส่งไปเรียนศาสนาที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จนแตกฉานทั้งในเรื่องศาสนา ปรัชญา และภาษาทางมุสลิม โต๊ะครู ตั้งใจจะกลับมาเผยแพร่ศาสนาที่มณฑลปัตตานี อันเป็นบ้านเกิด ได้เดินทางกลับมาเมื่อปี พ.ศ. 2470 จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศาสนา หรือปอเนาะ ขึ้นมาเป็นแห่งแรก ที่บ้านของตนเอง สมัยนั้นปอเนาะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล มีคนเรียนมลายูน้อยมาก ปอเนาะก็มีน้อย

จนเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่โต๊ะครูฮัจยีสุหลง เสนอ 7 ข้อเรียกร้องเสนอต่อรัฐบาล พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ปี 2490
1.ขอให้แต่งตั้งบุคคลคนหนึ่งซึ่งมีอำนาจเต็มมาปกครองใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล
2.ข้าราชการใน 4 จังหวัด ต้องเป็นมุสลิมจำนวน 80 %
3.ให้ใช้ภาษามลายูและภาษาไทยเป็นภาษาราชการของ 4 จังหวัด
4.ให้ภาษามลายูเป็นภาษากลางของการสอนในโรงเรียนชั้นประถมศึกษา
5.ให้ใช้กฎหมายมุสลิมในศาลศาสนา แยกออกไปจากศาลจังหวัด
6.ภาษีเงินได้และภาษีทั้งปวงที่เก็บจากประชาชนใน 4 จังหวัดต้องใช้จ่ายเฉพาะใน 4 จังหวัดเท่านั้น
7.ให้จัดตั้งคณะกรรมการมุสลิมมีอำนาจเต็มในการดำเนินการเกี่ยวกับคนมุสลิมทุกเรื่อง โดยให้อยู่ในอำนาจสูงสุดของผู้นำตามข้อ 1
ต่อมาได้เกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อปลายปีเดียวกัน ได้มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลมาเป็นขั้วของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างจากขั้วอำนาจเดิม ข้อเรียกร้องทั้ง 7 ข้อ ของโต๊ะครูฮัจยีสุหลงถูกเพ่งเล็งว่าเป็นกบฏกระด้างกระเดื่องต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร จนในที่สุดถูกจำคุกในข้อหาปลุกระดมและก่อการกบฏเพื่อแบ่งแยกดินแดน ซึ่งฮัจยีสุหลงถูกจัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี 8 เดือน หลังจากที่ออกจากคุก โต๊ะครูฮัจยีสุหลง ก็กลับมาปัตตานี และทำการสอนอัลกุรอานอย่างต่อเนื่อง นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ ยังเล่าอีกว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์รุ่นสุดท้าย ประมาณปี พ.ศ. 2496 เรียนได้กับโต๊ะครูได้ไม่นาน เมื่อปี พ.ศ. 2497 วันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันศุกร์ โต๊ะครูได้หายตัวไป จนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้น นายอรรถพร อารีหทัยรัตน์ ก็ได้เรียนอัลกุรอานกับลูกๆของโต๊ะครูฮัจยีสุหลง ในเวลาต่อมา

เรียบเรียงโดย กมลทิพย์ หลงหา