เกาะจือลาปีเป็นเรื่องเล่าของความอกตัญญูของลูกกับบุพการี เป็นเรื่องเล่าที่ยาวนานของชาวบ้านที่มีอาชีพทำการประมง
เมืองที่ติดกับชายทะเลแห่งหนึ่ง มีหมู่บ้านหนึ่งที่เขาเรียกว่าหมู่บ้านชาวทะเลจะมีครอบครัวหนึ่ง มีฐานะยากจน อยู่กัน 2 คน แม่กับลูก ลูกมีอาชีพหาของทะเลขายช่วยจุนเจือทางบ้าน วันหนึ่งลูกมีความคิดว่าอยากทำอะไรที่สามารถช่วยเหลือครอบครัว ให้ได้กินดี อยู่ดี เลยปรึกษาหารือกับแม่ว่า ลูกจะขอออกไปหางานทำ แม่ก็ถามว่า จะออกไปหางานทำ จะทำงานที่ไหน ลูกบอกว่า จะเดินทางไปกับพ่อค้าที่มาค้าขายในเมืองนี้ด้วยเรือสำเภา ดังนั้นแม่ก็อนุญาตให้ไป ลูกก็เดินทางไปกับเรือสำเภาสินค้า ไปค้าขายระหว่างประเทศ เพราะการค้าขายสมัยก่อน เขาจะล่องเรือสำเภา ลูกได้เดินทางไปเป็นระยะเวลานาน ส่วนผู้เป็นแม่ เมื่อลูกจากไป ด้วยความรักความเป็นห่วงลูก ก็จะเดินไปชายหาดทุกวันเพื่อมองหาลูก ว่าเมื่อไหร่ลูกจะกลับมา วันแล้ววันเล่าเป็นระยะเวลา 10 ปี ลูกก็ไม่กลับมา อยู่ ๆเหมือนโชคเข้าข้างแม่ ลูกระลึกถึงแม่ จึงได้เดินทางกลับมาเยี่ยมแม่พร้อมกับภรรยาที่เป็นลูกสาวของพ่อค้าที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยระยะเวลานานที่ไม่เจอ ลูกไม่สามารถจำแม่ได้ เพราะแม่แก่ขึ้นมาก ลูกก็จำไม่ได้ว่าเป็นแม่และด้วยแม่มีฐานะยากจน ลูกไม่ยอมรับว่าบุคคลนี้เป็นแม่ แม่จะเข้าไปกอดลูก เพราะเห็นลูกกลับมา พอเข้าไปกอด ลูกก็ผลักไสไล่ส่งไม่ให้มากอด ส่วนภรรยาของลูกชายเองนั้นก็นึกรังเกียจแม่เช่นเดียวกัน จึงชวนกันกลับ แม่รู้สึกโกรธจึงสาปแช่งลูกว่าหากเรือสำเภาของลูกลำนี้ล่องไปกลางทะเล ขอให้เกิดอับปางลงกลางทะเล ด้วยคำสาปแช่งของแม่ พอเรือล่องไปถึงกลางทะเลก็เกิดพายุใหญ่ ทำให้เรือของลูกล่มคว่ำลงเสียชีวิตทั้งครอบครัว ชาวบ้านเชื่อว่า ลูกสาวหรือหลานพอเรือล่มถึงแก่ชีวิต ก็เกิดเป็นนกนางแอ่นหรือนกนางนวล นี่อาจเป็นการลงโทษของพระเจ้าหรือเป็นไปตามการสาปแช่งของผู้เป็นแม่ พอเกิดอับปางแล้ว หลังจากนั้นเป็นเวลานาน ท้องเรืออับปางที่โผล่ขึ้นมาเป็นเกาะ ก็คือเกาะจือลาปีในปัจจุบัน
ความเชื่อ : มีความเชื่อของชาวประมงว่า ในช่วงมรสุมถ้าหากเกิดฟ้าร้องหรือเสียงร้องจากทะเล นั่นคือเสียงร้องของลูกที่ขอความช่วยเหลือจากแม่ ถ้าเมื่อไหร่ทางฝั่งบกหรือทางภูเขามีเสียงร้อง นั่นคือเสียงร้องของแม่ ถ้าเมื่อไหร่ที่ฝั่งลูกร้องแล้วแม่ขานรับ หรือฝั่งแม่ร้องแล้วลูกขานรับ ก็จะเกิดเหตุการณ์ เกิดมรสุมใหญ่ เกิดน้ำท่วมใหญ่ เป็นความเชื่อของชาวบ้านที่ออกทะเล และปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ