แหลมตาชี อัญมณีแห่งลังกาสุกะ ความงามของพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินในมุมเดียวกัน
นายมะแซ สะอะ เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่นี่กว่า 75 ปีแล้ว จากที่เคยฟังจากคนเฒ่าคนแก่บอกเล่าถึงที่มาของชื่อหมู่บ้านแหลมโพธิ์นี้ว่าเพราะสมัยก่อนนั้นมีต้นโพธิ์ขึ้นอยู่จำนวนมาก นายดอเลาะ สะอะ (ลูกชาย) ได้เล่าเสริมว่า คนที่อาศัยอยู่ตำบลแหลมโพธิ์นี้เมื่อก่อนบ้านอยู่ที่กรือแซะอาชีพหลักของชาวบ้านคือการประมง เมื่อล่องเรือมาหาปลาแถวนี้แล้วเกิดพายุ หรือคลื่นลมแรงจะไม่สามารถกลับบ้านได้ จึงมีการสร้างกระท่อมหลังเล็กๆ เพื่อพักอาศัย รอคลื่นลมสงบ ต่อมาก็มีชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นๆ มาสร้างที่พักอาศัยเพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน การเดินทางสมัยก่อนค่อนข้างลำบาก เพราะไม่มีถนนและไฟฟ้า การเดินทางจึงต้องใช้เรือเป็นหลัก ผู้คนจึงไม่ค่อยรู้จักตำบลแหลมโพธิ์ ปัจจุบันการเดินทางสะดวกทำให้ตำบลแหลมโพธิ์เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับที่นี่มีหาดทราย ซึ่งเกิดจากการทับถมของทรายมารวมกันเป็นระยะเวลานาน เกิดเป็นพื้นดินที่งอกขึ้นใหม่ เรียกว่า “แหลมตาชี”
นางนฤมล สาและ รองประธานท่องเที่ยวแหลมตาชี เล่าว่า ตำบลแหลมโพธิ์แยกมาจากตำบลตะโละกาโปร์ เนื่องจากแหลมโพธิ์มีประชากรเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะพัฒนามาเป็นชุมชนท่องเที่ยวนั้น สมัยก่อนในช่วงฤดูฝนชาวบ้านจะมาจับนกที่มีอย่างหลากหลาย สีสันสวยงาม เพราะพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งมีต้นพุทราทะเลที่ผลมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวขึ้นอยู่มากมาย
นางพารีดะ อารีชู ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาคประชาชน) เล่าว่า ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ตนชอบมาเที่ยวชมธรรมชาติที่แหลมตาชี เพราะช่วงตะวันตกดินจะสวยงามมาก เป็นความประทับใจจนถึงทุกวันนี้ สมัยก่อนการเดินทางมาที่แหลมตาชีจะต้องไปขึ้นเรือที่ปานาเระ การเดินทางไม่ได้สะดวกสบายเหมือนสมัยนี้
จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และวิวธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนจึงนิยมมาเที่ยวชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินในมุมเดียวกัน ความงามเหล่านี้เป็นจุดที่ทำให้เกิดเป็นชุมชนท่องเที่ยวแหลมตาชี เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจมีที่พัก รีสอร์ทเพิ่มขึ้นมากมาย ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้แก่คนในชุมชน แม้ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพด้านการประมงเป็นหลัก
